หลายครั้งที่เจ้าของสุนัขใหม่จะพบกับพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ เช่น กัด, เห่า, ขับถ่าย, ขุด คือทำอะไรก็ได้ที่ขัดใจเรา แต่จริงๆแล้วเราควนจะระลึกว่า พฤติกรรมทั้งหมดนี้เป็น พฤติกรรมของสุนัขปรกติ ซึ่งสุนัขที่เข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ในบ้านเรา ยังไม่รู้กฏระเบียบที่เราวางไว้ จึงเป็นหน้าที่ของเจ้าของที่ จะสอนกฏเหล่านั้นให้กับสุนัขใหม่
การเลือกลูกสุนัข
เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดอันดับแรกคือ “การศึกษาสายพันธุ์สุนัข” อย่างรอบคอบ ศึกษาข้อดี-ข้อเสียของสายพันธุ์ โรคที่มากับสายพันธุ์ นิสัยหลัก ๆ ของสายพันธุ์ที่เราเล็งไว้ให้ดีที่สุดเพราะนี่คือปราการแรกที่เราจะได้สุนัขที่ถูกกับจริตของเรา
ความจริงเกี่ยวกับสุนัขนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย เพราะสุนัขทุกตัวมีข้อเสีย-ข้อดีแตกต่างกันไป อย่าตั้งกำแพงไว้ว่า สุนัขของเราเป็นสุนัขที่สมบูรณ์แบบ หากเราเลือกจากสายพันธุ์ที่ดีที่สุด แพงที่สุดแล้วก็ตาม เพราะลูกสุนัขทุกตัวสามารถโตไปได้หลายทิศทาง จากการเข้าสังคม การเลี้ยงดู และการฝึกฝน
สิ่งที่ควรดูอย่างยิ่งในการเลือกฟาร์มก็คือ ควรเลือกลูกสุนัขที่ผู้เพาะพันธุ์ให้เวลากับลูกสุนัขมาก ให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวสุนัข พูดตรงอย่งจริงใจ ไม่โน้มน้าวเพียงข้อดี แต่เป็นข้อเท็จจริงที่ควรทราบ เช่น สุนัขชิบะก็เหมือนสุนัขทั่วไป มีดุและไม่ดุ เป็นต้น สุนัขพ่อแม่พันธุ์ควรผ่านการตรวจโรคทางพันธุกรรมและมีหลักฐานยืนยัน เช่น การตรวจสะโพกต้องมีแผ่นฟิล์ม เป็นต้น อีกทั้งต้องมีสุขภาพจิตที่ดี เพราะจิตประสาทจะส่งไปถึงรุ่นลูก เช่น หากพ่อหรือแม่สุนัขขี้กลัว ลูกสุนัขก็อาจจะขี้กลัวด้วย ซึ่งเป็นลักษณะที่ไม่พึงประสงค์ในการเพาะพันธุ์ เพราะจะนำไปสู่การใช้ชีวิตที่ลำบากของตัวสุนัขเอง และผู้เลี้ยง เช่น สุนัขหวาดกลัวการออกนอกบ้าน หรือเสียงพลุ เป็นต้น
หากเป็นไปได้ควรเลือกสุนัขที่ถูกเลี้ยงในบ้าน เพราะลูกสุนัขจะได้เคยชินกับสิ่งที่อยู่ในบ้าน เช่น เสียงดูดฝุ่น เสียงของหล่นในบ้าน เสียงกรี๊ดของเด็ก หรือเสียงดังจากทีวีที่เราดูทุกวัน ลูกสุนัขที่ถูกเลี้ยงในบ้านจะค่อย ๆ เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ นี้รอบตัว จากการได้ยินและค่อย ๆ มองเห็นทีละนิดจากพัฒนาการของลูกสุนัข
อย่าเลือกลูกสุนัขที่มาจากฟาร์มที่เลี้ยงสุนัขเพื่อการพาณิชย์ หรือที่เราเรียกว่าโรงงานผลิตสุนัข เพราะนอกจากที่พ่อแม่พันธุ์จะไม่ได้รับการเลี้ยงดูอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว อีกทั้งลูกสุนัขพวกนี้จะไม่ได้ฝึกการเข้าสัมคม สภาพแวดล้อม แบบบ้านใหม่ที่ควรจะเป็น สุนัขจะกลัวหรือหวาดระแวงได้ง่ายกว่าสุนัขที่ถูกเลี้ยงในบ้าน และสุดท้ายก็จะเป็นการสร้างภาระให้เจ้าของ หรือแย่ไปกว่านั้นถูกทิ้งให้เป็นภาระต่อสังคม
เรียนรู้สิ่งสำคัญจากการจำกัดบริเวณลูกสุนัข
การที่เรามีบริเวณให้ลูกสุนัขของเรานั้นเป็นสิ่งที่ควรจัดสรรหา เหมือนกันกับที่คนเรามีห้องส่วนตัว และเราจะรู้ว่าของในบริเวณห้องเราเป็นของเรา เราจะทำอย่างไรกับมันก็ได้ เช่นเดียวกับลูกสุนัข การที่มีบริเวณ คอก หรือกรง ไม่ใช่การทำร้ายกังขัง หากเราใช้มันอย่างถูกวิธี
ในระยะยาวการที่เรากักบริเวณลูกสุนัขตั้งแต่เล็ก จะเป็นการที่ทำให้สุนัขได้เรียนรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ทำได้และไม่ได้ ทั่วบริเวณบ้าน ลูกสุนัขจะเรียนรู้ได้ด้วยตัวเองว่าสิ่งใดควรทำและไม่ควรทำเมื่อค่อย ๆ เติบโตขึ้น ลูกสุนัขจะค่อย ๆ เรียนรู้ว่าควรขับถ่ายตรงไหน อยู่ตรงไหนจะเป็นที่ ๆ เค้าอยู่แล้วสบายใจ สามารถกัดหรือเล่นของเล่นอะไรได้บ้าง สิ่งทั้งหมดนี้ควรจะฝึกและอาจจะให้ขนมกับสุนัขไว้ยามที่เราทิ้งสุนัขให้อยู่บ้านตัวเดียว อีกทั้งเป็นการที่เจ้าของจะเรียนรู้ว่า ลูกสุนัขต้องการอะไร เช่นเห่า หรือมีพฤติกรรมว่าอยากเข้าห้องน้ำและเราควรจะพาเค้าไปยังที่ ๆ เตรียมไว้ เป็นต้น
สิ่งที่ควรมีให้ลูกสุนัข คือ บริเวณจำกัด เช่น คอก กรง เป็นต้น น้ำ และอาหาร รวมไปถึงของเล่นให้สุนัขเล่นยามเมื่อคุณไม่อยู่ หรือห้องน้ำ ที่นอนสุนัข
อย่าลืมว่านี่เป็นการสร้างระเบียบและเป็นเวลาที่ลูกสุนัขจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับกฏเกณฑ์ในบ้านของคุณ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก