อย่างที่ทราบกันแล้วว่า สุนัขชิบะ หรือชิบะอินุเป็นสุนัขที่เป็นมรดกของประเทศญี่ปุ่น (อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่) โดยสุนัขชิบะเป็นสุนัขขนาดเล็ก ของสุนัขญี่ปุ่น รูปร่างเล็กกระทัดรัด ไว้สำหรับล่าสัตว์เล็กไปจนถึงหมูป่า สุนัขชิบะเป็นสุนัขที่มีขน 2 ชั้น โดยขนชั้นนอกจะแข็งหยาบ ส่วนขนชั้นในจะนิ่มเหมือนสำลี ทำให้สุนัขชิบะสามารถทนต่ออากาศหนาวจัดได้อย่างดี ในขณะเดียวกันสุนัขชิบะสามารถอยู่ในพื้นที่อากาศอบอุ่นหรือร้อนได้เช่นกัน  จึงทำให้ลักษณะขนของสุนัขชิบะจึงแตกต่างไปตามลักษณะภูมิอากาศโดยขึ้นอยู่กับการปรับตัว และกรรมพันธุ์ของแต่ละตัว อายุเฉลี่ยของสุนัขชิบะอยู่ประมาณ 12-15 ปี แต่สุนัขชิบะที่อายุยืนที่สุดในโลกอายุยืนถึง 26 ปี (ข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับสุนัขชิบะที่อายุมากที่สุดในโลก ที่นี่)

(โปซึเกะและเจ้าของสุนัขชิบะที่อายุยืนที่สุดในโลก 26 ปี)

                           จากที่กล่าวมาสุนัขชิบะจึงเป็นสุนัขที่ต้องการ การออกกำลังกายทุกวัน โดยจากข้อมูลของผู้เลียงสุนัขชิบะในไทย 62% สุนัขชิบะต้องการ การออกกำลังปานกลาง (พาออกกำลังกายเช้า-เย็น เดินเล่น ขี่จักรยาน)  และหากสุนัขชิบะไม่ได้รับการออกกำลังกายที่เพียงพอ อาจจะทำให้เครียด ทำลายทรัพย์สินในบ้าน หรือปัญหาอื่นๆตามมา

สุนัขชิบะจะมีนิสัยค่อนข้างคล้ายๆ แมว โดยสุนัขชิบะชอบที่จะได้นอนกลางวัน อาบแดด (ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับนิสัยตัวสุนัขเองด้วย) โดยการนอนอาบแดด จะสามารถลดปัญหาขนอับชื้น ซึ่งจะก่อให้เกิดโรคผิวหนังต่อไปด้วย สุนัขชิบะเป็นสุนัขที่ไม่เห่าโดยไม่จำเป็น แต่บางครั้งจะกรีดร้องเสียงแหลมคล้ายเสียงเด็กร้องแทนการเห่า  สุนัขชิบะเป็นสุนัขคล่องแคล่ว ปราดเปรียว ชอบไล่ล่าสัตว์เล็กหรือสิ่งที่ขยับได้ มีสัญชาตญาณนักล่าสูง เพราะฉะนั้นสุนัขชิบะอาจจะไม่เหมาะต่อการเลี้ยงร่วมกับสัตว์เล็ก (หนู กระต่าย หรืออื่นๆ) ด้วยลักษณะที่คล้ายแมวทำให้สุนัขชิบะเป็นสุนัขที่มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง มีความคิดเป็นของตัวเอง เรียนรู้ที่จะเชื่อฟังได้รวดเร็ว และในขณะเดียวกันก็เรียนรู้ที่จะไม่เชื่อฟังคำสั่งได้เช่นกัน พวกเค้าเป็นนักแก้ปัญหา และมักคิดว่าวิธีของเค้าดีกว่าเราเสมอ เพราะฉะนั้นใครที่ต้องการเลี้ยงสุนัขชิบะควรเรียนรู้การเป็นหัวหน้าฝูงที่ดีโดยสามารถศึกษาจากคู่มือฝึกสุนัขต่างๆได้

52.8% ของผู้เลี้ยงสุนัขชิบะคิดว่าสุนัขชิบะเป็นสุนัขที่โลกส่วนตัวสูงชอบอยู่ตัวเดียวบ้าง หรือมาเล่นกับเจ้าของบ้าง หรือเรียกภาษาพูดว่าไม่ติดคนมากนั่นเอง แต่ 86.1% คิดว่าสุนัขชิบะสามารถเข้ากับทุกคนในบ้านได้ดี และ 61.1% คิดว่าสุนัขชิบะสามารถเข้ากับสัตว์เลี้ยงอื่นๆในบ้านได้ แต่ในขณะเดียวกัน 22.2% คิดว่าสุนัขชิบะเข้ากับสัตว์เลี้ยงอื่นๆไม่ได้ ผู้เลี้ยงควรศึกษาการนำสุนัขเข้าฝูงก่อนนำสุนัขใหม่หรือสัตว์เลี้ยงใหม่เข้าบ้านก่อนน่าเป็นการดีที่สุด

จาก 48.6% ผู้ที่เลี้ยงชิบะในประเทศไทยรู้สึกว่าสุนัขชิบะซนค่อนข้างมาก และในขณะเดียวกัน  67.6% คิดว่าสุนัขชิบะไม่เหมาะกับผู้เลี้ยงสุนัขใหม่ หรือเป็นสุนัขตัวแรก เพราะต้องได้รับการฝึกและเวลาค่อนข้างมาก และ 58.3% คิดว่าการมีเวลาให้สุนัขชิบะมีผลต่อพฤติกรรมสุนัขมาก

เนื่องจากสุนัขชิบะเป็นสุนัขที่มีขนสองชั้น ในหนึ่งปีจึงมีการผลัดขนโดยสุนัขชิบะจะผลัดขนสองครั้งในหนึ่งรอบ โดยอาจจะผลัดขนชั้นในก่อน หรือขนชั้นนอกก่อน แล้วแต่ตัวสุนัขเอง โดย 77.8% คิดว่าสุนัขชิบะต้องการการดูแลขนระดับกลางๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเมื่อขนทั้งสองชั้นเต็ม โดยเฉพาะขนชั้นในเต็มต้องการ การดูแลโดยการหวีเพื่อให้อากาศได้เข้าไปถึงผิวหนังทำให้ผิวหนังไม่ชื้นมาก เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีภูมิอากาศแบบร้อนชื้นจึงอาจทำให้เกิดการอับชื้นได้ง่าย

ด้านสุขภาพของสุนัยชิบะ 51.4% คิดว่าสุนัขชิบะมีปัญหาสุขภาพน้อยหรือไม่ค่อยมีปัญหา แต่ 43.2% คิดว่าสุนัขชิบะมีปัญหาสุขภาพบ้างเช่นเดียวกัน โดยแบบสอบถามได้มีคำถามเกี่ยวกับโรคที่พบได้บ่อย 29.7% สุนัขชิบะมีปัญหาเรื่องขนและผิวหนัง 10.8% มีปัญหาเรื่องกระดูก และ 8.1% มีปัญหาทางด้านดวงตา และ 21.6% เห็นว่าสุนัขชิบะมีปัญหาเรื่องน้ำตา หินปูน(เหงือกอักเสบ) และกังวลเรื่องข้อสะโพก ซึ่งเกิดจากกรรมพันธุ์หรือการเลี้ยงดูที่มีส่วนกระตุ้นให้เกิดโรคนี้ เพราะเนื่่องจากปัจจุบันบ้านในประเทศไทยนิยมปูกระเบื้อง     เกรนิตโต้ซึ่งผิวหน้ากระเบื้องมีความมันและลื่นค่อนข้างสูง โดยผู้เลี้ยงแก้ปัญหาโดยการปูแผ่นกันลื่น

แหล่งอ้างอิง

ขอขอบคุณข้อมูลการสำรวจจาก Shiba Gang Thailand  มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

ข้อมูลนี้ทำขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์ในการศึกษาลักษณะสายพันธุ์ โดยห้ามนำไปคัดลอก ดัดแปลง แก้ไข หรือกระทำการใดๆก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรนะคะ ถ้าต้องการเผยแพร่ข้อมูลรบกวนแชร์บทความแทนเพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะค๊า ^_^

ติดตามเราได้ที่ FACEBOOK : SHIBAINU DARUMA KENSHA

INSTAGRAM : DARUMA HOME

เริ่มต้นด้วยประวัติโบโบ้ ก็ต้องเริมจากหม่าม๊าและป่าป๊า

ตัวกลางนะจ๊ะ

ตั้งแต่เก็นโบ้อายุประมาณ 3 เดือนครึ่ง

ประมาณ 7 เดือน

วันที่ 16/4/2015 เก็นโบ้ประกวดได้รางวัน ヤッコタン幼犬賞 หรือรางวัลสุนัขหนุ่ม

เจอริอ้อนครั้งแรก มองตากันปิ๊งๆๆๆ

และก็ถึงวันที่เราได้พบกัน 31/5/2015

จากวันนั้นถึงวันนี้

โบ้เป็นหนุ่มแล้วนะกั๊ป!

การที่ได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของผู้เพาะพันธ์เค้าขึ้นมา ถือเป็นเกียรติอย่างหนึ่งของเรา เพราะฉะนั้นเราจะดูแลให้ดีที่สุด เท่ากับที่เค้าไว้วางใจมอบ  ชีวิตน้อยๆให้เราได้ดูแล

Mitsuharu Kanasashi’s Notes about the post standards of Shiba-Inu.
Illustration by Mitsuharu Kanasashi
Following text is by our mentor, Mitsuharu Kanasashi’s description with his own understanding.

– The way to see and examine the Shiba Inu through the conversation with Mr. Kanasashi. The following text has been translated with the concept for letting the people outside Japan to understand how the person such as Mr. Kanasashi who’s been the witness of the whole scene.

1. The “eyeline”matters as a million dollars.

I consider the primal beauty of the Shina Inu could be seen with its eyes and the fur, otherwise the hair. It is hard to describe what I mean about the eyes but it could be said as those eyes are like seeing the deep valley, looking up the high cliff wall of the remote. What I am trying to tell is the image of something that easily blends into the great nature with some kind of mysterious and serious feelings, and such is the best. For now, let me say it could be the eyes set back, otherwise using the word Okume
(O-Koo-May). Oku-may is not the round eyes which looks cute and charming.
Oku means “far” of say “Set back”. The eyes don’t look round because it is set back. (Note: Consider the almond shape and look as it is calm and seeing the far.)

2. MaichiMonji/ The straight-lined mouth.

Muzzle shape is sharp and the “lips” look staright when the mouth is closed, and doesn’t look “lose”. When opened, it could be look as a slit.

3. Inside the ears are whote.

Many might know that the basic of the SHiba Inu is what so called the “Urajiro”. “Ura” means back, “Jiro” which means as “Shiro”. The belly side should be white, is what it means. As same as this, inside the ears must be white. I mean the fur color. White and not long makes the look of the face much sharper.

4. Not the back of the head but the Neck section (Nazoe/ Na-Zo-Ay).

What this means is that the well built back of the head to the Neck but not only that. It includes the other factors such as the fur/ hair, and turns to the meaning of the state of the whole head part which has the good enough length.

5. The foot looks as the fox(Tsumami/ Tzu-Ma-Me).

This doesn’t mean as the cat foot. It is an adjective for the lower leg section. It means as“From the end where the nails coming out and looks as the short fingers, the whole leg shape looks as of the fox”. The paw part is not wide spread and looks as it is grabbing something surely. The breed lines of Naka-Go and Nakaichi-Go (both Akaishi-Soh) feature the this shape. With such shape, I think the overall movement of the dog is sharp and swift.

6. KyuJoSen/ Bow Arch Line

The KyuJoSen reads as Cue-Joe-Sen which means the “arch line as the bow” of the bow and arrow. Maybe this could be said as “the tapered line”.
The term means the “line of the belly from the side view” and if this is good, the look gets better with the extra supporting image enhancing the both rear legs catching the ground surely and mightily.

7. The space in between tail and the Back Line (Haisen, reads as High-Sen) looks much stronger, or say mightier. (About a width of the fist/ wider than 3 inches but lesser than 4 inches.)

In Japan, we make a ball with the cooked rice to carry on for meal and its size varies but the typical one is about 3inches wide. Lesser than 4 inches for sure. We call the rice ball
(usually covered partially with Nori, the seaweed sheet) and it is called as “Omusibi/ Oh-Moo-Sue-Be) or Musubi (Moo-Sue-Be, which means one rice ball).
We use either the Omusubi Ikko which means One Rice-ball or Musubi Ikko (same as former) and it means the preferable or say preferred space in between the silhouette line of the back and the tail, even it is curled. What this means is that “too much curled” is not preferable.

8. Too”wide” is slower, or say “heavy” in action.

It doesn’t mean big, thick or whasoever. With the KyuJoSen (of above 6) which is the belly side line, the body part should enhance the strength, mightiness and the severeness to stand against the nature. These factors are the reflection of the well developed muscle and tendon with the preferable “angle” balance of all those things which gathers and brings the dynamism of the breed.
Shiba Inu moves quick otherwise swiftly, and it is by the total balance of the many factors. The lightening
fast movement of the small hunting breed could be seen and felt from the look. Take the careful look on this leads to the much further understanding for the other things.

9. The coat is formed with the “Three Part Hair”.

The facial look enhances the characteristic of the dog. The simplicity of the “Look” or say the appearance is heavily relying on the “Coat” and it shows the “pureness” otherwise the “genuineness”.
This “Three Part Hair” means, for example, if the dog is the Red or say the Tan color, the tip part of the hair, say the2/5 is the red or the tan, and then it fades to near white, then the black part about 1/5 of of the hair could be seen, and then it ends with the white to the root.
This typical feature is obvious with the Naka-Go and Nakaichi-Go of the Akaishi-So and its line. This feature could be seen with the present Hakuba-No-Gen-Go(Roukaku-So) and its line as well as many dogs with the sharp but yellowish Red coat Shiba Inus from the San-In region.

วันแรกของการเดินทาง!!! เย่ๆ ไปก่อนเวลาหลายชั่วโมงเลยโล่งงงงง

ลืมเอาอะไรมากิน ที่สนามบินก็แพงแสนแพง เลยหาของฟรีกินหาไปหามา เหยยยย AIS มี Gift ให้้ครุคริๆๆๆๆ

ถึงแย๊ววว Chubu Centrair International Airport, Nagoya

ถึงแล้วทำอะไรล่ะ กินซิครัชชชช ดูแผนที่ไว้แล้ว อิๆๆๆ ได้เครื่องรอมาเบอร์ 2 ของมาแล้ววววว อยากกินทั้งข้าวหน้าปลาไหล(อุนางิ)และข้าวหน้าเนื้อ สั่งมันทั้งสองเลย55555

อร่อยมว๊ากกกกกกก อิ่มมว๊ากกกก เนื่องจาก โรงแรมสามารถเช็คอินได้ตอน 5โมงเย็น เลยไปฝากกระเป๋าแล้วออกมาเดินเล่นดีก่า ดูรีวิวโรงแรมได้ที่นี่จ้า https://shibainuthaidarumasou.wordpress.com/2015/06/17/review-nagoya-2015-eco-hotel-nagoya/

ตึกให้เช่าที่จอดรถ

บรรยากาศรอบๆที่พัก

ตลาดสดที่เก็บไปแล้ว

จุดจอดรถจักรยานหยอดเหรียญ เก๋ดีอะชอบ

ห้องสูบบุหรี่และตู้จอทัชสกรีน เก๋มากชอบ คนข้างนอกก็ไม่ต้องมานั่งดมบุหรี่ คนดูดก็ดูดได้อย่างสบายใจ

ชื่อฟาร์มว่า “ดารุมะเคนฉะ”

達磨犬舎

มาจาก

ตุ๊กตาดารุมะ

ซึ่งตุ๊กตาดารุมะจะเป็นตุ๊กตาล้มลุก

จะหมายถึงการให้กำลังใจว่าเมื่อล้มแล้วต้องสู้ สู้และลุกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

และเมื่อมีคน นำตุ๊กตาดารุมะมาให้เราในตอนแรกที่เราได้รับมา

เจ้าตุ๊กตาดารุมะนี่จะยังไม่มีตาดำ
เราจะต้องอธิษฐาน และตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะทำอะไร
เมื่ออธิษฐานแล้วเราจะระบายสีตาดำข้างใดข้างหนึ่ง
แล้วนำไปวางไว้บนหิ้งในที่เห็นได้ง่ายๆ
เพื่อเป็นการเตือนสติ ให้นึกถึงเป้าหมายที่เราได้อธิษฐานเอาไว้
เมื่อบรรลุเป้าหมายแล้วเราก็จะระบายสีตาดำอีกข้างให้สมบูรณ์
คุ๊กตาดะรุมะ จะเป็นที่นิยมของนักการเมืองญี่ปุ๋นมาก
โดยจะเห็นได้จากช่วงการเลือกตั้ง พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง ก็จะมีการเติมตาของดะรุมะ

(ที่มา : http://japanfavor.blogspot.com/2014/04/daruma-doll-one-of-popular-souvenirs-in.html)

ก็เปรียบเสมือนกับที่ตัวเราได้ตั้งเป้าหมายว่าอยากจะทำฟาร์มสุนัขคุณภาพ ทั้งสำหรับตัวสุนัขเองและคนที่รับไปเลี้ยง และเราจะเป็นดารุมะที่แม้จะล้มแล้วล้มอีกก็จะลุกขึ้นมาใหม่ เพราะเป็นความฝันที่สุดแล้วของเรา

Eco Hotel Nagoya ตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟ Nagoya ประมาณ 5 นาทีโดยการเดินเท้า รอบๆมีร้านอาหาร และ 7-11 ฝั่งตรงข้ามมีร้านยา ถ้าจองตามเวปจองอาจจะถูกกว่า เราจองได้คืนละ 650 บาท สามารถเช็คอินได้เวลา 5 โมงเย็นนะ แต่สามารถเอากระเป๋าไปฝากได้ แต่ตอน Check-out ฝากไม่ได้นะ ควรจะนำไปฝากที่ตู้ล็อคเกอร์ที่สถานีประมาณ 600 เยน ไม่แพง ลิฟท์จะมีบริการตั้งแต่ชั้น 2-4 และใต้ดิน(เพื่อไปอาบน้ำสามารถอาบได้หลัง 21.00 มั้ง ถึง 9 โมงเช้า ถ้าจำไม่ผิด) ไม่เหมาะแก่ผู้ที่ไม่สามารถแบกของขึ้นชั้น 2 เองได้ โอ้แอบลืมพอกลางคืนหน้าโรงแรมมีทาโกยากิร้านดังที่เมืองไทยก็มีด้วยล่ะ(จำชื่อไม่ได้ แหะๆๆ) อยู่ที่ดีอยู่ดีกินดีชัวร์ เสียงไม่ดังอะไรมากถึงจะติดถนน

เป็นคนสัมภาระเยอะมากบอกเลย 5555 ห้องขนาดกระทัดรัด มีราวแขวนผ้าหน้าหน้าต่างหรือปลายเตียงนั่นเอง  เตียงนอนสบายมาก มีหมอนให้ 1 ใบ ผ้าขนหนู 1 ผืน ผ้าเช็ดหน้าเช็ดผม 1 ผืน(ยาว) สลิปเปอร์ใส่ในห้อง 1 คู่ ทีวี และตู้เย็น ข้อเสียคือปลั๊กมีแค่ 2 ช่องเท่านั้น

บริเวณทางเดินหน้าห้องจะมีอ่างล้างหน้า กระจก สบู่ กาน้ำร้อน และห้องน้ำแยกชายหญิง สะอาดมากชอบ

นี่คือชั้นใต้ดิน ห้องอาบน้ำนั่นเอง มีกระจก หวี(หยิบฟรีได้เลย) ไดร์เป่าผม พัดลม โต๊ะข้างแป้งรวม เครื่องซักผ้า สามารถขอผงซักฟอกที่ฟรอนต์ได้ฟรี เครื่องอบผ้า

พอเปิดเข้าไปในประตูห้องอาบน้ำจะเจอแบบนี้ คือเป็นพื้นที่สำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า มีไม้แขวนและตะกร้าให้

ภายในห้องอาบน้ำจะมีแชมพูและสบู่ให้

ด้านหน้าโรงแรม ตึกช็อปปิ้ง 10 กว่าชั้น ของเยอะมากกกกก และสถานีรถไฟฟ้า Nagoya มี Shingansen ด้วยนะ

ต้องขอขอบคุณ “หมิว” ที่อยู่ข้างๆ ช่วยมาตลอด ต้องคอยมาเช็ดนู่นเช็ดนี่ช่วยอาบน้ำ 555555

ดีใจที่ทุกๆตัวเริ่มเข้ากันได้ดีมาก ไม่กัดกันไม่ทะเลาะกัน ช่วงนี้ฝนตกกลางคืนทุกวัน ทุกตัวหลังสบาย หน้านี้ก็เห็บคงจะเริ่มมา ยุงเริ่มชุมต้องระวังกันนะทุกคน

แต่ละรูปกว่าจะถ่ายได้ 555+ แต่รู้คือตอนนี้รวยความสุข มีความสุขมาก มีความสุขที่จะตื่นเช้ามาปล่อยเด็กๆเข้าห้องน้ำมาเล่นกัน มีความสุขที่เลิกงานแล้วจะได้พาเด็กๆไปวิ่งเล่น

สนุกสนาน~ ทุกๆวัน อาจจะมีที่นางๆงอนกันบ้าง ก็โอ๋เอ๋กันไป เดี๋ยวก็หาย ตอนนี้งดเล่นลูกบอลยางทุกชนิด เพราะโบ้ชอบกินมาก กัดแล้วฉีกแล้วกิน เก็บทิ้งยกบ้าน!

สวัสดีหน้าฝน ที่ฝนไม่ค่อยตก และดีใจที่ไม่ตกตอนเย็นไม่งั้นเด็กๆคงจะอดเที่ยว~

เสร็จแล้วนะ!! หลังคาและกั้นผนังใหม่!!!

ริอ้อนเดินไม่ทันหวานเลยยืนรอ หยุดเองด้วยนะ แล้วหันมาหาน้องโบ้ก็ไม่ดื้อเลย ยืนนิ่งรอน้องด้วย

เล่นกันบ้านแตก ห้องพัก พรมยืด 55555 อ้อนกำลังเล่นชักกะเย่อกับโบ้ หวานเป็นกรรมการ~

ทำลายล้างเสร็จก็นอนพักอย่างสงบ ดีใจจริงๆ 55555

กัดกันอร่อยเลย ดีมากวันนี้ไม่แย่งกันด้วย